tag:blogger.com,1999:blog-74336075823597460952024-02-21T07:57:53.343-08:00สำนักงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดกำแพงเพชรEMS CENTER OF KAMPHEANGPHEThttp://www.blogger.com/profile/04296516833584327448noreply@blogger.comBlogger2125tag:blogger.com,1999:blog-7433607582359746095.post-71655254113738726522007-05-22T01:05:00.001-07:002007-05-22T01:05:19.704-07:00ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัดกำแพงเพชร 1669<div align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhiIXDNrcCJi-GIHZdgqdgVKrCow0tGJVxCnv7Un2roFnCC2SorFy63OE33kDBuy5lY4HjCU0Bng8R0fkeOd5Z-CwLgJKA1nsqORuMquV3K7Nehy_syW_nx_YCua21_ZFNN9I1ZXsCP51w/s1600-h/DSC00322.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5067292576890807746" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhiIXDNrcCJi-GIHZdgqdgVKrCow0tGJVxCnv7Un2roFnCC2SorFy63OE33kDBuy5lY4HjCU0Bng8R0fkeOd5Z-CwLgJKA1nsqORuMquV3K7Nehy_syW_nx_YCua21_ZFNN9I1ZXsCP51w/s320/DSC00322.jpg" border="0" /></a><span style="font-family:verdana;font-size:180%;"><strong> <span style="color:#cc0000;">ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัดกำแพงเพชร</span></strong></span></div><div align="center"><span style="font-family:verdana;font-size:180%;"><strong><span style="color:#cc0000;">อุบัติเหตุ เจ็บป่วยฉุกเฉิน โทร. 1669<br /></span></strong></span>ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัดกำแพงเพชร ตั้งอยู่ที่ โรงพยาบาลกำแพงเพชร ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ภายใต้การดูแลของสำนักงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดกำแพงเพชร มีหน้าที่ในการแจ้งเหตุทางหมายเลข 1669 กรณีของการเกิดจากมอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยฉุกเฉิน และสั่งการให้หน่วยอาสาสมัครกู้ชีพที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ให้ออกไปรับผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บ<br /></div>EMS CENTER OF KAMPHEANGPHEThttp://www.blogger.com/profile/04296516833584327448noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7433607582359746095.post-16764425624800425452007-05-21T22:01:00.000-07:002007-05-21T22:01:31.126-07:00<div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgFxag3uZltdJFFeBpfr1fv3V23mXH-M6_wEawKu__9YMKmcpTfnFzMkXZQ63M2DNx7KLyu9Zgo-FqMvr2ITIqTiwl6yT9gAdumfhUiA7LFEfr7UNDhvZpStipuEBcF8SijxREewMn3Aq8/s1600-h/CAAMV2KO.jpeg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5067241887686780306" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 259px; CURSOR: hand; HEIGHT: 130px; TEXT-ALIGN: center" height="94" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgFxag3uZltdJFFeBpfr1fv3V23mXH-M6_wEawKu__9YMKmcpTfnFzMkXZQ63M2DNx7KLyu9Zgo-FqMvr2ITIqTiwl6yT9gAdumfhUiA7LFEfr7UNDhvZpStipuEBcF8SijxREewMn3Aq8/s320/CAAMV2KO.jpeg" width="260" border="0" /></a> <span style="font-size:180%;"><strong><span style="color:#ff6666;">ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน</span></strong><br /></span>(EMERGENCY MEDICAL SERVICE SYSTEM หรือ EMS)<br /><br />ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน คือ การจัดการให้มีการดูแลรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์ ซึ่งมีส่วนร่วมจากทุกภาค ทุกองค์กรในชุมชนทุกระดับ เน้นหนักในด้านความรวดเร็ว วิธีการดูแลรักษาที่ถูกต้อง การขนย้ายและการนำส่งที่เหมาะสม โดยจัดให้มีระบบการรับแจ้งเหตุ หน่วยปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินที่มีคุณภาพและทั่วถึง ตลอดจนเครือข่ายโรงพยาบาลที่เหมาะสมกับสภาพของผู้เจ็บป่วย เพื่อลดการตาย การพิการและความทุกข์ทรมานโดยไม่จำเป็น ลดขั้นตอนและวิธีการรักษา ลดค่าใช้จ่ายและความสูญเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการสร้างความมั่นใจ และความพึงพอใจให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชนนั้น ๆ<br />EMS ช่วยแก้ปัญหา อะไร<br />EMS ช่วยแก้ปัญหาในการช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่<br />· ความล่าช้า<br />· การดูแลรักษาผู้ป่วยที่ไม่ถูกวิธี<br />· การนำส่งผู้ป่วยที่ผิดที่<br />ซึ่งนำไปสู่ การตาย การพิการ การทุกข์ทรมาน ความยุ่งยากในการรักษา ความสูญเสีย<br />ทางเศรษฐกิจ และความเดือดเนื้อร้อนใจของประชาชนในชุมชน โดยไม่จำเป็น<br />EMS ทำอย่างไร จัดให้มีระบบบริการรองรับ 3 ประการ ได้แก่ </div><div>· มีระบบรับแจ้งเหตุ<br />· มีหน่วยปฏิบัติการกู้ชีพ<br />· มีการประสานงานเพื่อการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม<br />ระบบรับแจ้งเหตุ คือ การจัดให้มีระบบบริการแจ้งเหตุที่ง่ายต่อการจำ ง่ายต่อการเรียก ง่ายต่อการถ่ายทอดข้อมูล ง่ายต่อการได้รับการช่วยเหลือที่เหมาะสม หมายเลข 1669 โทรฟรี ให้คำแนะนำ จัดหาหน่วยกู้ชีพที่เหมาะสม ประสานการจัดหายานพาหนะเพื่อลำเลียงขนย้าย และประสานโรงพยาบาลที่รับรักษา โดยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์<br />ในขณะเดียวกัน การแจ้งเหตุอาจทำโดยการแจ้งหรือประสานทางวิทยุสื่อสารเครือข่าย<br />ตำรวจ ดับเพลิง สถานีวิทยุกระจายเสียงบางแห่งหรือโทรศัพท์สายตรงไปยังหน่วยปฏิบัติการกู้ชีพ หรือโรงพยาบาลได้อีกด้วย<br />หน่วยปฏิบัติการกู้ชีพหรือหน่วยปฏิบัติการ ในระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน หมายถึง<br />หน่วยบริการหรือองค์กรของรัฐหรือเอกชนที่ให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุ ที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักบริการการแพทย์ฉุกเฉินทั้งหน่วยบริการและบุคลากร ประกอบด้วย<br />1. หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินเบื้องต้น (First Responder)<br />2. หน่วยปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินระดับพื้นฐาน BLS (Basic Life Support)<br />3. หน่วยปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินระดับสูง ALS (Advanced Life Support)<br /><br />ข้อกำหนดด้านหน่วยปฏิบัติการ บุคลากร พาหนะ และบทบาทหน้าที่ของหน่วยปฏิบัติการ<br />ตามแนวทาง ในคู่มือการพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ของศูนย์นเรนทร พ.ศ. 2550 มีดังนี้<br />1. หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินเบื้องต้น (First Responder)<br />1.1 ข้อกำหนดของหน่วยปฏิบัติการ<br />1.1.1 เป็นหน่วยปฏิบัติการที่สามารถประเมินสถานการณ์และสภาพผู้เจ็บป่วยฉุกเฉิน<br />ให้การปฐมพยาบาล การช่วยเหลือฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน เคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างถูก<br />วิธี สื่อสารประสานงานกับศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการประจำจังหวัด และร่วม<br />ปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยปฏิบัติการ ในระดับที่สูงกว่า<br />1.1.2 ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินประจำจังหวัด<br />1.1.3 สามารถปฏิบัติงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง<br />1.2 ข้อกำหนดด้านบุคลากร<br />1.2.1 เป็นบุคลากรที่ผ่านการขึ้นทะเบียนเป็นอาสากู้ชีพ (First Responder: FR) กับ<br />สำนักงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินประจำจังหวัด และผ่านการอบรม<br />หลักสูตรการปฐมพยาบาลและการเคลื่อนย้ายขั้นพื้นฐานของกระทรวงสาธารณสุข (16 ชม.)<br />1.2.2 มีบุคลากรปฏิบัติงาน 10 คน / ทีม สำหรับเปลี่ยนเวรการปฏิบัติงานใน 24 ชม.<br />1.2.3 สุขภาพแข็งแรงไม่เป็นอุปสรรค์ต่อการปฏิบัติงาน<br />1.2.4 อายุ 18 – 60 ปี<br />1.2.5 ผ่านการอบรมฟื้นฟูความรู้ทุก 2 ปี<br />1.3 ข้อกำหนดด้านพาหนะ<br />1.3.1 รถกระบะดัดแปลงหลังคาสูง รถตู้ หรือเรือติดเครื่องมีประทุนที่ผ่านการขึ้นทะเบียนเป็นพาหนะปฏิบัติการฉุกเฉินเบื้องต้น(อนุโลมให้ใช้รถปิกอัพตอนเดียวที่ไม่มีหลังคาได้ในระยะเริ่มแรก)<br />1.3.2 มีเปลสำหรับขนย้ายผู้เจ็บป่วยฉุกเฉิน ที่สามารถยึดตรึงกับพาหนะ 1.3.3 อุปกรณ์ปฐมพยาบาล<br />- ลูกสูบยางแดง<br />- Pocket Mast<br />- อุปกรณ์ห้ามเลือด ทำแผล<br />- อุปกรณ์หนีบสายสะดือ<br />- อุปกรณ์การดามแขนขา<br />1.3.4 อุปกรณ์การดามและยึดตรึง<br />- Hard Collar<br />- แผ่นรองหลังแบบยาวพร้อมอุปกรณ์ประคองศีรษะ และสายรัดตรึง ศีรษะ<br />(Long Spinal Board ) พร้อม Head immobilizer และ Belt 3 1.3.5 อุปกรณ์ป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ<br />- ถุงมือ<br />- Mask<br />- ถุงขยะติดเชื้อ<br />- ผ้ากันเปื้อน<br />- รองเท้าบู๊ท<br />1.3.6 อุปกรณ์ควบคุมสถานการณ์<br />- กรวยจราจร<br />- ไฟฉาย<br />- เสื้อสะท้อนแสง<br />- เทปกั้นการจราจร<br />1.3.7 อุปกรณ์การสื่อสาร วิทยุสื่อสารมือถือ<br />1.3.8 คู่มือการปฏิบัติงาน (Protocol)<br />1.4 บทบาทหน้าที่ของหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินเบื้องต้น<br />1.4.1 ปฏิบัติงานภายใต้ระเบียบการปฏิบัติงานของระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน<br />1.4.2 ประเมินสถานการณ์เบื้องต้น<br />1.4.3 จำแนกประเภทผู้ป่วย (Triage)<br />1.4.4 ประเมินสภาพผู้ป่วย<br />1.4.5 สื่อสารประสานงานและขอความช่วยเหลือ เมื่อเกินขีดความสามารถ<br />1.4.6 ให้การปฐมพยาบาล การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน<br />1.4.7 เคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างถูกวิธี<br />1.4.8 ให้การดูแลผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินขณะนำส่ง<br />1.4.9 ส่งมอบผู้ป่วย ณ สถานพยาบาลตามการประสานงานกับศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ<br />1.4.10 บันทึกรายงานการปฏิบัติงาน<br />1.4.11 ทำความสะอาดรถปฏิบัติการและเก็บอุปกรณ์<br />ในการปฏิบัติการแต่ละครั้ง มีขั้นตอนหลักที่จะต้องคำนึงเพื่อให้การปฏิบัติการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้<br />1. เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน ต้องการช่วยเหลือและรักษาพยาบาลเบื้องต้น ผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้ป่วย ผู้พบเห็น หรือญาติแจ้ง 1669 วิทยุสื่อสาร หรือ โทรศัพท์ ซึ่งผู้ป่วยหรือผู้พบเหตุต้องมีความรู้ในการประเมินการเจ็บป่วย ถ้าหากละเลยทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตหรือพิการได้<br />2. ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการประจำจังหวัด ซักถามเหตุการณ์การบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย อาการและจำนวนผู้ป่วย เพื่อประเมินสถานการณ์และความรุนแรงของการเจ็บป่วย พร้อมทั้งสถานที่ที่เกิดเหตุ ชื่อผู้แจ้ง เบอร์โทรศัพท์หรือรหัส จากนั้นให้คำแนะนำการให้การช่วยเหลือเบื้องต้น ณ จุดเกิดเหตุแก่ผู้แจ้ง<br />3. ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการประจำจังหวัด สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการ (ALS, BLS, หรือFR ) ตามโซนรับผิดชอบของหน่วยให้บริการนั้นๆ โดยระยะเวลาตั้งแต่รับแจ้งเหตุจนถึงสั่งการไม่ควรเกิน 1 นาที<br />4. เมื่อได้รับคำสั่งจากศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ พร้อมข้อมูลประเภทเหตุการณ์ อาการและจำนวนผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บ ได้รับแจ้ง และสถานที่เกิดอุบัติหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน หน่วยปฏิบัติการต้องออกปฏิบัติการไม่เกิน 2 นาที (ในพื้นที่ชนบทอาจอนุโลมให้นานกว่านี้ตามสภาพของแต่ละท้องถิ่น)<br /><br /><span style="font-family:arial;color:#ff0000;"><strong>สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมและมีสำหรับหน่วยกู้ชีพระดับตำบล</strong></span><br /><br />สิ่งที่องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)/เทศบาลเมือง/เทศบาลตำบล ต้องเตรียมสำหรับการจัดตั้งหน่วยกู้ชีพระดับตำบล<br />1. รถพยาบาลเป็นรถกระบะดัดแปลงตอนเดียว ยกเว้น 4 ประตู สำหรับหลังคามีหรือไม่มีก็ได้<br />2. บุคลากรสำหรับปฏิบัติงาน อย่างน้อย 10 คน สำหรับการหมุนเวียนกันปฏิบัติงานได้ 24 ชั่วโมง จบการศึกษาขั้นต่ำ ป.6 อ่านออกเขียนได้ สามารถขับรถได้และมีใบอนุญาตขับขี่<br />3. วิทยุสื่อสารมือถือ<br />ส่วนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร จะให้การสนับสนุนดังต่อไปนี้<br />1. อบรมให้ความรู้ด้านวิชาการหลักสูตรการปฐมพยาบาลและการเคลื่อนย้ายขั้นพื้นฐานของกระทรวงสาธารณสุข (16 ชม.)<br />2. อุปกรณ์เคลื่อนย้ายผู้ป่วยขั้นพื้นฐานหน่วยละ 1 ชุด<br />3. ค่าตอบแทนหน่วยบริการกู้ชีพในการออกให้บริการแก่ประชาชนครั้งละ 350 บาท<br /><br />หากมีข้อสงสัยประการใดโปรดติดต่อไปที่ งานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร โทรศัพท์. 055 – 705187-8 ต่อ 130 หรือ ห้องปฐมพยาบาล โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งในพื้นที่ของแต่ละอำเภอ หรือติดต่อโดยตรงที่ นายณัฐพงศ์ วิมานสาร โทร. 089-6416331, 084-6218210 นายสหภาพ พูลเกษร โทร. 084-1532795</div>EMS CENTER OF KAMPHEANGPHEThttp://www.blogger.com/profile/04296516833584327448noreply@blogger.com0